หลวงพ่อสมบูรณ์จับยามสามตา ดูคนหาย
หลวงพ่อสมบูรณ์จับยามสามตา ดูคนหาย
เรื่องราวต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นราวๆ ในปี พ.ศ.๒๕๔๔ ขณะนั้นหลวงพ่อสมบูรณ์ ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดวังกุ่ม อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ได้มีหญิงสาววัยกลางคน ซึ่งบ้านอยู่ที่ ต.บางปรุ อ.กะเปอร์ จ.ระนองได้ ได้มีบิดาหายไปจากบ้าน ซึ่งไม่ทราบว่า หายไปไหน เพราะพยายามที่ค้นหาตามแถวละแวกๆบ้าน และตำบลใกล้เคียง หรือ แม้กระทั่งสถานที่ที่บิดาเคยไปบ่อยๆ แต่ก็ไม่พบ ได้ติดต่อเจ้าที่ ผู้นำชุมชน แม้กระทั่งทหาร ซึ่งทางทหารเกณฑ์จำนวน ๑๕๐ คนมาช่วยกันหา จนเวลาล่วงเลยไปได้ ๗ วัน ก็ยังไม่พบ
จนวันหนึ่ง ได้ยินคนเล่ากันว่า มีพระอยู่รูปหนึ่ง อยู่ที่วัดวังกุ่ม อ.กะเปอร์ จ.ระนอง เก่งเรื่องการดูชะตาอย่างมาก ให้ลองไปที่วัดดังกล่าวดู ในวันหนึ่งหญิงสาวคนดังกล่าวเดินเข้าไปตลาดอำเภอกะเปอร์เพื่อหาซื้อของ และได้ไปพบหลวงพ่อสมบูรณ์ อยู่ร้านขายยา ซึ่งหลวงพ่อสมบูรณ์กำลังซื้อยาให้โยมแม่ หลวงพ่อสมบูรณ์ ก็ได้เห็นใบหน้าของหญิงดังกล่าว ใบหน้าเศร้าหมอง ท่านก็ได้ถามหญิงดังกล่าวว่า " โยม..ทำไมดูหน้าเศร้าๆ" ผู้หญิงได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง และได้ถามหลวงพ่อสมบูรณ์ว่า " หลวงพ่ออยู่วัดไหน " หลวงพ่อสมบูรณ์ จึงบอกว่า อยู่วัดวังกุ่ม ผู้หญิงคนดังกล่าวจึงได้สอบถามว่า รู้จักพระที่ดูดวงแม่นๆไหม ที่เขาพูดถึงกัน
หลวงพ่อสมบูรณ์ท่านรู้ว่า ผู้หญิงคนนี้กำลังหมายถึงท่าน แต่ท่านก็ไม่กล้าที่จะแสดงตัว เพราะคนอยู่กันเยอะ ดูแล้วไม่เหมาะกับกาละเทศะนัก ก็จึงบอกว่า "โยมมีเวลาก็ไปหาท่านที่วัดก็ได้นะ ท่านน่าจะอยู่วัด" หลังจากนั้นหลวงพ่อสมบูรณ์ก็ได้กลับไปที่วัดวังกุ่ม เพื่อนำยาให้มารดาทาน
เวลาเย็นวันหนึ่ง ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ได้เดินทางไปที่วัดวังกุ่ม อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ได้สอบถามพระในวัดว่า" รู้จักพระที่ดูดวงแม่นๆไหม" พระในวัดก็ชี้ไปยังกุฏิหลวงพ่อสมบูรณ์ ก็ได้พบหลวงพ่อ ก็จำได้ว่า เป็นพระที่ตนเอง เคยเห็นในตลาด ที่ร้านขายยานั้นเอง หลังจากที่ทักทายปราศัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อสมบูรณ์ท่านก็พูดตามหลักวิชาที่ท่านเล่าเรียนว่า " ตกเลข 0 คือ ผู้นี้จะหาไม่พบ จะหาอย่างไรก็หาไม่พบ ได้หายไปจากบ้าน ทางหลังบ้าน (ซึ่งทราบตอนหลังว่า หลังบ้านเป็นป่าละเมาะ ผู้เป็นพ่อไปเก็บผักหวาน) " ผู้หญิงคนดังกล่าวก็หน้าซีด และได้ตำหนิหลวงพ่อว่า "ท่านเป็นพระ พูดจาอย่างนี้ได้อย่างไร พูดไม่เหมาะ ไม่ถูกต้อง" หลวงพ่อก็ยืนยันว่า " มันเป็นอย่างนี้จริงๆ "
หลังจากนั้นหญิงคนดังกล่าวก็ไม่ค่อยจะพอใจนัก จึงกลับบ้าน และไม่มาที่วัดวังกุ่มอีกเลย
หลวงพ่อท่านได้เล่าว่า ท่านก็พยายามติดตามเรื่องนี้ตลอด เมื่อใดที่เจอคนรู้จักบ้านหลังดังกล่าว ก็พยายามถามตลอดเวลาว่า ได้พบหรือยัง ปรากฎว่า "ยังไม่พบ" จนทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้พบ และเมื่อประมาณปี ๕๖ หลวงพ่อสมบูรณ์ก็ได้พบหญิงดังกล่าวอีก หลวงพ่อก็ได้สอบถาม ผู้หญิงดังกล่าวบอกว่า "หาไม่พบ"
ผู้สัมภาษณ์หลวงพ่อ ก็ได้สอบถามเรื่องนี้ ท่านก็เล่าให้ฟังว่า " ตกเลขสูญ นั้นหายสาปสูญ ไม่ใช่เจ้าที่บดบังหรอก ซึ่งท่านก็เคยเจอเรื่องอย่างนี้เป็นรายแรกเช่นกัน และหลวงพ่อท่านก็ไม่กล้าบอกว่า ชายดังกลา่วนั้นเสียชีวิตตั้งแต่หายจากบ้านไป ๕ วันแรกแล้ว "
สามารถสอบถามหลวงพ่อโดยตรงได้ครับ
ตอบลบ